วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

อุทยานแห่งชาติตาดหมอก



อุทยานแห่งชาติตาดหมอก
             ชื่อนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูใครอีกหลายคน แต่รับรองได้เลยว่าความสวยงามไม่น้อยหน้าที่อื่นแน่นอนครับ  
             อุทยานแห่งชาติตาดหมอก เป็นอีกอุทยานแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่เพชรบูรณ์  จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดที่มี่อุทยานแห่งชาติ เย่อะมาก เรียกได้ว่าไปที่เพรชบูรณ์ ที่เดียวคุ้มกันไปเลย ครับพี่น้อง
ไม่ว่าจะเป็น เขาค้อ น้ำหนาว ถูหินร่องกล้า  และอีกมากมายหลายที่ครับ

และหนึ่งในนั้น คือที่นี้นี่เอง ตาดหมอก
           การเดินทาง ที่พักก็สดวกสบายครับ เหมาะกับการ ไปสูดอากาศอย่างยิ่งครับ
สำหรับที่เทียวที่ขึ้นชื่อที่นี้ ก็มี น้ำตกตาดหมอก  สายน้ำตกลงมากระทบกัโขดหินเบี้องล่าง
มีละอองน้ำ เป็นฝอยกระทบกับแสงแดด หน้าดูมากครับ  และยังมีน้ำตกสองนางกับน้ำตกหินแร่อีก
ยังมีจุดชมวิวที่ทุกคนไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง จุดชมวิว ผาสวรรค์ ที่มองเห็น ภูหลวง ภูหอ ภูกระดึง
แบบพานอรามา เลยทีเดียวครับ สวยงามสุดๆ
สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่
           อุทยานแห่งชาติตาดหมอก
         0 5681 0616
         08 9703 8855
         tatmok1@hotmail.com
แบกเป้ไปเที่ยวด้วยกันครับ











วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว

สวัดดีครับ หน้าหนาวอย่างนี้ใีีีครที่มองหาที่เที่ยว ที่ได้สัมผัสกับความหนาวเย็น
แน่นอนครับ หลายต่อหลายคน คงนึกถึงไปเที่ยวเหนือ หรือไม่ก็ไปเที่ยวภาคอีสาน ซึ่งสองภาคนี้เป็นถูเขา หรือ ดอย ซ่ะส่วนมาก  ครับผมอยากแนะนำ ที่ที่เป็นเหมือนเป็น กำแพงธรรมชาติ ที่กั้นระหว่างภาคเหนือ กับภาค อีสาน และมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ที่นี้ก็คือ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวนั้นเอง... 
 
สำหรับที่เที่ยวก็มีหลายที่ครับ
 จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นภูค้อ ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดอีกจุดหนึ่งเลยที่เดียว
ที่ว่าอย่างนั้นก็เพราะ เมื่อเรามองออกไป ทามกลางทะเลหมอก จะมองเห็นถูกระดึง และ
ภูผาจิตอยู่เบื้องหน้า
 และที่ถ้ำผาหงส์ เป็นจุดที่ดูพระอาทิตย์ตกในยามเย็น และภายในถ้ำยังเป็นที่อาศัยของ
ค้างค้าวหลายชนิด รวมไปถึง ค้างค้าวมงกุฎมาร์แชลด้วย ซึ่งเป็นสัตว์หายากอีกชนิดหนึ่งด้วย
และยังมีสวนสนบ้านแปก ป่าสนสองใบขึ้นอยู่กลุ่มใหญ่ตามธรรมชาติ และยังมีทุ่งหญ้าเพ็กจำนวนมาก มองดูแล้วสวยงามมาก  และระหว่างทางระหว่าง จุดชมวิวกับสวนบ้านแปก จะเป็นป่าดิบชื้นและป่าดิบเขา
แล้วยังมีนกหายากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนกแต้วแร้ว นกหัวขวาน ยันไปถึงนำเงือกเลยก็มี เหมาะสำหรับนักดูนกเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว และยังมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ กระต่ายป่า ยันไปถึง เสือโคร่ง เลยทีเดียว
และยังมีน้ำตก เหวทรายที่เกิดจากลำห้วยสนามทราย  ซึ่งเป็นลำห้วยแบ่งเขตแดนระหว่าง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ กับ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
สำหรับ การเดินทาง และที่พัก ก็ค่อนข้างสดวกสบายเลยทีเดียว
สอบถามได้ที่
              อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
       อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 67260
 โทรศํพย์ 0 5681 0724
             08 1962 6236
โทรสาร   08 1888 4107





วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2553

ปาย


   ปาย ชื่อนี้หลายต่อหลายคนคงคุ้นหูกันดีนะครับ เพราะช่วงนี้ดังกันเหลือเกิน จนเอาไปทำเป็นภาพยนต์ กันเลยทีเดียว
   ปาย เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา เมืองแห่งนี้ีในยามเช้าตอนหน้าหนาว
จะถูกปกคลุมด้วยสายหมอก และละอองน้ำจาง ๆ  ผู้คนมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย
ท้องฟ้าสีคราม ทุ่งนาสีเขียว แสงแดดในยามเช้า บรรยากาศเงียบสงบอย่างนี้ เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้เป็น
สถานที่พักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง อย่างยิ่งเลยทีเดียว

 การเดินทางมีหลายช่องทางครับ

รถตู้โดยสาร เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุด
มีให้บริการหลายแห่งครับ แต่ผมขอเเนะนำ
aYa Service: 053-699888
ที่่ เซียงใหม่: 053-247889
สอบถามลายละเอียดกันได้ครับ

รถโดยสารประจำทาง เป็นวิธีที่ใช้เวลาเดินทางนานที่สุดนะครับ
 จากกรุงเทพฯ
      -มี รถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ออกจากหมอซิต 2 ทุกวัน สอบถามรายละเอียดได้ที่
บริษัท เมืองเหนือยานยนต์ 0 2936 3587-8
จากเซียงใหม่ มี 2 เส้นทาง
     1.สายเซียงใหม่-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน มีหลายเที่ยวต่อวัน ไปคามทางหลวงหมายเลข 108
ตั้งแต่เวลา 06.30-21.00 น.
     2.สายเซียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน มีหลายเที่ยว ไปตามเสันทางหลวงหมายเลข 107 และ 1095
ตั้งแต่เวลา 07.00-12.30 น.






   

วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

    อุทยานแห่งชาติภูหลวง
       
    มีความหมายว่า ภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน (ความหมายดีครับ)


ตั้งอยู่ที่ จังหวัด เลย ครอบครุมพื้นที่ สี่อำเภอ คือ อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และ


อำเภอภูหลวง


ภูหลวงมีสถานที่เที่ยวมากมายหลายแห่งครับ

ยกตัวอย่าง เช่น   ลานสุริยัน และป่าหินภูเขา เป็นแหล่งที่ มีกล้วยไม้ป่า ที่ค่อนข้างหลากหลาย เหมาะ

สำหรับคนที่ชอบกล้วยไม้เป็นอย่างยิ่งครับ และยังมีพรรณไม้ที่มีเฉพาะที่ภูหลวงนี่เพียงแห่งด้วย

 แล้วด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขา ภูหลวงจึงมี ผาสมเด็จ ผาเยือง และ ผาโหล่นแต้ ลัษณะหน้าผา

สูงชันและมีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุกว่า 120 ล้านปี มีทุ่งกุหลาบแดง ทุ่งกุหลาบขาว

ที่ค่อนข้างสมบูรณ์

และยังมีน้ำตกที่สวยงาม อย่างน้ำตกตาดเลย ครับ
   


สำหรับการเดินทางไปได้




   เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ - จังหวัดสระบุรี - อำเภอสีคิ้ว - จังหวัดชัยภูมิ - อำเภอภูเขียว- อำเภอชุมแพ - อำเภอภูกระดึง - อำเภอสะพุง - จังหวัดเลย ระยะทางโดยประมาณ 560 กิโลเมตร
   

เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ - จังหวัดสระบุรี - จังหวัดเพชรบูรณ์ - อำเภอหล่มสัก - อำเภอหล่มเก่า - อำเภอด่านซ้าย - อำเภอภูเรือ - จังหวัดเลย ระยะทางโดยประมาณ 530 กิโลเมตร
    

การเดินทางจากจังหวัดเลยไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงออก เดินทางจากตัวจังหวัดเลยไปตามเส้นทางสายจังหวัดเลย - อำเภอภูเรือ ระยะทาง 36 กิโลเมตร จะถึงบ้านสานตม แล้วแยกซ้ายที่บ้านสามตมไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
   

สำหรับผู้ที่เดินทางโดยเส้นทางที่ 2 ถ้าไม่เข้าตัวจังหวัดเลย เมื่อเดินทางผ่านอำเภอภูเรือไปตามเส้นทางเข้าจังหวัดเลยได้ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร จะถึงบ้านสามตม


  
 



วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เขาค้อ

เมื่องมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง

ลองทายกันดูนะครับว่า นี่คือคำขวัญประจำจังหวัดอะไร..ใช่แล้วครับ จังหวัด เขาค้อ เอ้ย..

จังหวัดเพชรบูรณ์ นั่นเองครับ วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวที่เข้าค้อครับ



เขาค้อ  อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี เพียง 18-25 องศาเซลเซียสเท่านั้น  แม้ว่าในฤดูร้อนก็ตาม นอกจากนี้

เขาค้อยังเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่บนเทือกเขา ที่ประกอบด้วยเนินน้อยใหญ่  สลับกันไปมา สวยงาม ยอดเขาที่

สูงที่สุดของเขาค้อ คือ เขาย่า ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระตำหนักเขาค้อ มีความสูง 1,290 เมตร จากระดับน้ำ

ทะเลปานกลาง และส่วนยอดของเขาค้อ ยังเป็นที่ตั้งของ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ มีความสูง

1,174 เมตร สภาพอากาศบนเขาค้อจึงค่อนข้างเย็น และเย็นจัดในฤดูหนาว และเป็นแหล่งชมทะเลหมอก

ที่สวยมากแห่งหนึ่งและที่สำคัญไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก




การเดินทาง จากเพชรบูรณ์ไปเขาค้อใช้ทางหลวงหมายเลข 21 (เพชรบูรณ์-หล่มสัก) ถึงสามแยกนางั่ว

ประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2258 อีก 30 กิโลเมตร

อีกเส้นทางหนึ่งคือ ไปตามทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 100 (บ้าน

แคมป์สน) เลี้ยวซ้ายเข้าเขาค้อตามทางหลวงหมายเลข 2196 อีกประมาณ 33 กิโลเมตร พาหนะที่จะขึ้น

เขาค้อมีทางโค้งมาก ถนนค่อนข้างแคบและลาดชัน ควรใช้ความระมัดระวังในการเดินทางด้วย


สวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถประจำทางสามารถเช่ารถสองแถวได้ที่ปากทางขึ้นเขาค้อ บริเวณ

แคมป์สน กิโลเมตรที่ 100 ในราคาวันละประมาณ 600 บาท มีรถบริการตั้งต่เวลา 08.00-17.00 น. หรือ

อาจเช่ารถสองแถวที่บริเวณตลาดเทศบาล ในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ราคาวันละประมาณ 800 บาท

อันนี้ก็แล้วแต่สดวกครับ



สำหรับที่พัก ก็มีทั้ง รีสอร์ท บ้านพัก  และสำหรับคนที่ต้องการลุยๆหน่อย ทางอุทยานก็จัดที่ให้กางเต้นท์
ให้ครับ อ้อลืมบอกไปสำหรับรีสอร์ท กับ บ้านพัก ต้องจองก่อนนะครับ เดียวเต็มชะก่อนนะครับ

หรือจะติดต่อสอบถามรายละเอียดก่อนได้ที่

อุทยานแห่งชาติเขาค้อ


33 หมู่ที่ 11 ต.บุ้งน้ำเต้า อ. หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ 67110

โทรศัพท์ 0 1226 0565 อีเมล reserve@dnp.go.th

 ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก

http://www.dnp.go.th/

http://www.khaoko.com/

www.เขาค้อ.net/

http://www.thai-tour.com/                                            
                                                 

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ภูกระดึง





       ครับครั้นนี้เราจะกล่าวถึง ภูกระดึงกันบ้าง ดูจากภาพแทบไม่ต้องบอกก็พอจะเดาออกนะครับว่า
 สถานที่นี้คือที่ไหน..พร้อมแล้วไปกันเลย
     ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร(กว้างหน้าดู) มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล สภาพทั่วไปของภูกระดึง ประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
     ลักษณะภูมิประเทศ เป็นภูเขาหินทรายที่มีพื้นที่ราบบนยอดเขากว้างใหญ่สลับกับเนินเตี้ย ๆ ยอดสูงสุดคือ ภูกุ่มข้าว สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร เป็นแหล่งกำเนิดของลำน้ำพอง ซึ่งหล่อเลี้ยงเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนหนองหวาย ในจังหวัดขอนแก่น ยอดภูกระดึงประกอบไปด้วยป่าสนสลับป่าก่อและทุ่งหญ้า มีพันธุ์ไม้ดอก ไม้ใบ ขึ้นอยู่ทั่วไปตามบริเวณน้ำตก ลำธาร และลานหิน ซึ่งธรรมชาติได้สร้างสรรค์ไว้อย่างสวยงามยิ่ง
   สภาพอากาศบนภูกระดึงเย็นสบายตลอดปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 องศาเซลเซียส ในฤดูหนาวอากาศหนาวเย็นมากจนบางครั้งอุณหภูมิลดต่ำลงถึง 0 องศาเซลเซียส ช่วงที่ปิดอุทยานคือช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี ช่วงนี้เป็นฤดูฝนอากาศแปรปรวน บ่อยครั้งมีหมอกและเมฆฝนลอยต่ำ ฝนตกชุกทำให้เกิดภัยธรรมชาติอาจเป็นอันตรายได้ และช่วงที่เปิดให้เที่ยวได้คือช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นฤดูหนาวซึ่งอากาศดีมากๆครับ อยากให้ไปลองสัมผัสดูครับ
     ส่วนพันธุ์ไม้และสัตว์ป่ามีหลายชนิดครับ เช่น ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบเขา และป่าสนเขา มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ได้แก่ เต็ง รัง พลวง แดง มะค่า ยมหอม มะเกลือ ตะแบก สมอ รกฟ้า พญาไม้ สนสามพันปี จำปีป่า ทะโล้ เมเปิ้ล สนสองใบ และสนสามใบ ก่อชนิดต่าง ๆ ใน ทุ่งหญ้ามีพันธุ์ไม้ดอกที่สวยงาม ออกดอกบานสะพรั่งสลับกันไปตามฤดูกาล เช่น กุหลาบป่า เทียนน้ำ มณเฑียนทอง แววมยุรา กระดุมเงิน เทียมภู ส้มแปะ เง่าน้ำทิพย์ ดาวเรืองภู หยาดน้ำค้าง และกล้วยไม้ ซึ่งบางชนิดชอบขึ้นตามลานหิน ได้แก่ ม้าวิ่ง เอื้องคำหิน ส่วนไม้พื้นล่างมีเฟิร์น มอส โดยเฉพาะ ข้าวตอกฤาษี ซึ่งเป็นมอสขนาดใหญ่สวยงามที่สุดและมีอยู่เป็นจำนวนมาก
       ภูกระดึงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุมมากที่หนึ่งครับเนื่องจากลักษณะภูมิประเทศประกอบไปด้วยป่าไม้ ทุ่งหญ้าและลำธาร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ สัตว์ป่าภูกระดึงมีหลายชนิด เช่น ช้าง เสือโคร่ง หมีควาย เลียงผา เก้ง กวาง หมูป่า ชะนี บ่าง พญากระรอก หมาไน ส่วนนกชนิดต่าง ๆ ที่พบเห็นได้แก่ นกกางเขนดง นกจาบกินอกลาย นกกระทาทุ่ง นกพญาไฟใหญ่ นกขมิ้นดง และมีเต่าชนิดหนึ่งซึ่งหาได้ยาก คือ เต่าปูลู หรือ “เต่าหาง” เป็นเต่าที่หางยาว อาศัยอยู่ตามลำธารในป่าเขาระดับสูงของประเทศไทย กัมพูชา และ ลาว


                                            เรามาดูที่เที่ยวที่น่าสนใจกันดีกว่าครับ
       แก่งป่าหินทราย เป็นแก่งหินที่สวยงาม มีความยาวประมาณ 750 เมตร ด้านบนมีจุดชมทิวทัศน์ สามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของแก่งได้อย่างสวยงาม บริเวณแก่งหินจะมีหลุมเป็นอ่างหินที่เกิดจากการกัดกร่อนของแรงน้ำมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน เป็นจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง
       น้ำตกตาดห้วยวัว อยู่ห่างจากน้ำตกตาดฮ้องลงมาประมาณ 6.5 กิโลเมตร และห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ภด.3 (นาน้อย) ประมาณ 4 กิโลเมตร ด้านบนมีแก่งหินเล็
      น้ำตกตาดฮ้อง เกิดจากลำน้ำพอง ซึ่งไหลลงมาจากภูกระดึงด้านหุบเขาตะวันตกเฉียงเหนือ สองฝั่งของตาดร้องเป็นผาหินสูงชันมาก เมื่อน้ำตกผ่านผาหินกว้างที่ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ จึงทำให้เกิดเสียงดังกึกก้อง จากบริเวณน้ำตกมองเห็นแนวภูเขาเปลือยขวางอยู่ข้างหน้าน้ำตกตาดร้องอยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 20 กิโลเมตร
      น้ำตกถ้ำใหญ่ ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบ ประมาณ 1 กิโลเมตร เส้นทางเดินไปสู่น้ำตกจะดูใกล้นิดเดียวสำหรับคนชอบธรรมชาติ ชมนกชมไม้ เพราะตลอดเส้นทางครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้มกว่าทุกเส้นทางน้ำตกอื่น ๆ อาจได้พบต้นส้มกุ้ง (Begonice sp.) ออกดอกเป็นสีชมพู เกสรกลางสีเหลือง ชอบขึ้นตามทางในพื้นที่สูงอย่างป่าดงดิบเขา ในเส้นทางถ้ำใหญ่นี้มีทางเดินบางช่วงที่เลียบข้างลำห้วยเล็ก ๆ มีต้นเมเปิ้ลอยู่เป็นระยะ ๆ หากช่วงต้นมกราคม เส้นทางนี้จะแดงฉานด้วยใบเมเปิ้ลที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า ความสวยงามของน้ำตกถ้ำใหญ่จะแปลกตาด้วยโขดหินมหึมาวางทับซ้อนไม่เป็นระเบียบ ลำธารนี้ขนาบข้างด้วยต้นเมเปิ้ล ยามเมเปิ้ลแดงล่วงหล่น ขัดสีให้ลำธารหินเขียวสวยงามมีสีสันและมีชีวิตชีวาขึ้นมามากนักเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว
           ส่วนนี้คุ้นหูครับ สระอโนดาด เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัด ตามริมสระตอนปากธารน้ำไหลมีลานหินโผล่ขึ้นมา ยามน้ำน้อยสามารถไปนั่งเล่น ได้จากบริเวณสระอโนดาดยังมีทางเดินไปต่อบรรจบกับเส้นทางเดินเท้าสู่ถ้ำสอและถ้ำน้ำได้
     เอาแค่นี้ก่อนนะครับที่เทียวมัมเยอะมากครับ ถ้ามีโอกาศอย่าลืมไปเที่ยวกันนะครับ ไม่แน่ใจสอบถามรายระเอียดได้ที่
อุทยานแห่งชาติภูกระดึง


หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ. ภูกระดึง จ. เลย 42180

โทรศัพท์ 0 4287 1333, 0 4287 1458 โทรสาร 0 4287 1333

อีเมล phukradueng_np@dnp.go.th
  ที่มา
http://www.oceansmile.com/
http://www.dnp.go.th/

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ภูหินร่องกล้า


          อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า มีพื้นที่ครอบคลุมรอยต่อสองจังหวัด คือ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ภูหินร่องกล้าเป็นแหล่งกำเนิดของประวัติศาสตร์การ สู้รบอันยาวนานเป็นวีรกรรมของนักรบไทย ความขัดแย้งของลัทธิและแนวความคิดที่นำไปสู่ความสูญเสียเลือด ชีวิตและน้ำตา ภาพประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ ตลอดจนสภาพสิ่งก่อสร้างในอดีตจะถูกบันทึกเก็บรักษาไว้ เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงผลของการใช้กำลังเข้าประหัตประหาร ทำให้เกิดความสูญเสียที่ประเมินค่ามิได้ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางการเมืองความแตกแยก ความสามัคคีของคนในชาติ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ หรือ 307 ตารางกิโลเมตร

       สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยยอดภูเขาที่สำคัญคือ ภูหมันขาว ภูแผงม้า ภูขี้เถ้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า โดยมีภูหมันขาวเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1 ,820 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาเหล่านี้จะมีความสูงลดหลั่นลงไปจากด้านทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก และ เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยลำน้ำไซ ห้วยน้ำขมึน ห้วยออมสิงห์ ห้วยเหมือดโดน และห้วยหลวงใหญ่สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยยอดภูเขาที่สำคัญคือ ภูหมันขาว ภูแผงม้า ภูขี้เถ้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า โดยมีภูหมันขาวเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1 ,820 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาเหล่านี้จะมีความสูงลดหลั่นลงไปจากด้านทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก และ เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยลำน้ำไซ ห้วยน้ำขมึน ห้วยออมสิงห์ ห้วยเหมือดโดน และห้วยหลวงใหญ่สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ประกอบด้วยยอดภูเขาที่สำคัญคือ ภูหมันขาว ภูแผงม้า ภูขี้เถ้า ภูลมโล ภูหินร่องกล้า โดยมีภูหมันขาวเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด สูงประมาณ 1 ,820 เมตรจากระดับน้ำทะเล เทือกเขาเหล่านี้จะมีความสูงลดหลั่นลงไปจากด้านทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก และ เป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำลำธารหลายสาย เช่น ห้วยลำน้ำไซ ห้วยน้ำขมึน ห้วยออมสิงห์ ห้วยเหมือดโดน และห้วยหลวงใหญ่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ปกคลุมไปด้วยป่าไม้ 3 ชนิด คือ ป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าสนเขา

      ป่าเต็งรัง เป็นป่าที่ขึ้นในพื้นที่ระดับต่ำบริเวณเชิงเขา พื้นที่เป็นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์และค่อนข้างแห้งแล้ง พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง พยอม เหียง ตะคร้อ พลวง ฯลฯ



    ป่าดิบเขา จะขึ้นในบริเวณเขาสูง ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก อากาศชื้น เป็นป่ารกทึบ พันธุ์ไม้ที่พบเห็นทั่วไป ได้แก่ ก่อเดือย ก่อหัวหมู อบเชย ทะโล้ ฯลฯ ส่วนพืชพื้นล่าง ได้แก่ หวาย ปาล์มชนิดต่างๆ



   ป่าสนเขา เป็นป่าบนที่ราบหลังภู มีสนสองใบและสนสามใบขึ้นปะปนกัน ส่วนใหญ่เป็นสนสองใบ บางแห่งอยู่รวมกันเป็นป่าสนกว้างใหญ่



  นอกจากนี้ยังพบกล้วยไม้ป่าดอกไม้ป่าหลายชนิดขึ้นอยู่ตามลานหิน เช่น ม้าวิ่ง เอื้องตาหิน เอื้องคำหิน เอื้องสายสามสี ช้องนางคลี่ เหง้าน้ำทิพย์ กุหลาบขาว กุหลาบแดง ฟองหิน รวมทั้งมอส เฟิน ไลเคนล์ และตะไคร่ชนิดต่างๆ ซึ่งในช่วงปลายฤดูฝนต่อฤดูหนาวดอกไม้ป่าเหล่านี้จะออกดอกบานสะพรั่งมีสีสันงดงาม



   ในอดีตภูหินร่องกล้า เคยมีสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น เสือ กวางป่า เก้ง กระจง นกชนิดต่าง ๆ ครั้นต่อมาเมื่อกลายเป็นแหล่งอาศัยของคนจำนวนมาก และยังเคยเป็นสมรภูมิแห่งการสู้รบมาก่อน สัตว์ป่าต่างๆ จึงถูกล่าเป็นอาหาร ในปัจจุบันเหตุการณ์ต่าง ๆ สงบลง จึงมีสัตว์ป่าขนาดใหญ่ เช่น เสือ เก้ง กระจง หมี และนกหลายชนิดเข้ามาอาศัยอยู่มากขึ้น

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

ตู้ ปณ. 3 อ. นครไทย จ. พิษณุโลก 65120

โทรศัพท์ 0 5523 3527 โทรสาร 0 5523 3527